post:

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การปลูกมะเขือเทศไว้กิน




 การปลูกมะเขือเทศไว้กิน
     บทความนี้จะมาสอนวิธีการปลูกมะเขือเทศ ซึ่งสามารถไปใช้กับการปลูกมะเขือเทศได้หลายชนิด เช่น มะเขือเทศราชินี,มะเขือเทศลูกท้อ หากปลูกมะเขือเทศราชินีควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่และควรปลูกในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะมีโอกาศรอดสูงลดการทำลายของโรคและแมลง ที่ฟาร์มผักได้ปลูกมะเขือเทศราชินีสีแดงกับสีเหลืองซึ่งรสชาติจะดีกว่ามะเขือเทศตามตลาดทั่วไปและมีสีสด มะเขือเทศที่ฟาร์มจะมีรสหวานนำ

เทคนิคคือการใช้ดีเกลือผสมน้ำฉีดพ่นช่วยทำให้มะเขือเทศนั้นมีรสหวานและสีสด การปลูกมะเขือเทศนั้นหากปลูกไว้กินไม่ยาก อันดับแรกเราต้องปลูกให้ถูกฤดูและเลือกใช้วิธีให้น้ำแบบน้ำหยดจะดีที่สุดและให้ปลูกตามวิธีที่จะบอกต่อไปนี้ก็หน้าจะได้มะเขือเทศปลอดสารไว้กินกันนะครับ

การเตรียมดิน

     เตรียมดินในหลุมปลูกโดย ขุดดินลึก 20-30 ซม.  ตากดินไว้ 7 วัน หลังจากนั้นนำดินปลูกที่มีขายทั่วไป  2 ส่วน มูลไส้เดือน 1/2 ส่วน ปุ๋ยโบกาฉิ 2 ส่วน ผสมกับหน้าดินที่เราขุดตากไว้แล้วกลบลงหลุมไป รดด้วยน้ำหมักEMแล้วตามด้วยเชื้อสดไตรโครเดอร์มาละลายน้ำ1ช้อนแกงต่อน้ำ5ลิตร จากนั้นคลุมด้วยฟางหมักไว้อีก 7 วัน หากทำตามนื้มะเขือเทศจะแข็งแรงมากไม่ต้องมาระวงโรคทางดินที่เหลือเราจะได้มีเวลามาระวังแมลงไม่งั้นเดี๋ยวมะเขือเทศโดนทั้งโรคและแมลงคงไม่ไหวกันพอดี
     ในช่วงที่เราหมักดินนั้นเราก็มาเตรียมเพาะต้นกล้าให้หยอดหลุมละ 1เมล็ดและรดน้ำเช้าเย็นทุุกวันเมล็ดก็จะเริ่มงอกในวันที่3-4 

หลังจากนั้นให้นำไปไว้ในที่มีแดดและให้มีการพลางแสงไว้ด้วย ดูแลรดน้ำไปอีก15-20วันแล้วจึงย้ายต้นกล้าลงถุงเพาะเบอร์2 ใส่ดินปลูกแล้วให้เลี้ยงต่อไปอีก15-20วันจึงย้ายลงปลูกในดิน  

ควรใช้ระยะระหว่างแถว 1 เมตร ระยะระหว่างต้น 25 - 50 ซม. ปลูก 1 ต้นต่อหลุม และกลบโค่นต้นให้ลึก50-70%ของต้นเด็ดใบที่ลงดินออกด้วย ส่วนในรูปปลูกในระบบถังรดน้
 เมื่อต้นมะเขือเทศสูงสัก 90 ซ.ม. ให้ตัดแต่งกิ่งด้านล่างออกให้หมดประมาณ30ซ.มจากโค่นต้นและทำค้างให้มะเขือเทศสูงประมาณ 2 เมตร

การใส่ปุ๋ย  
    การปลูกผักผลไม้ผมจะใส่ปุ๋ยเคมีเสมแต่จะใส่น้อยเน้นใส่ผสมกับปุ๋ยหมักเพราะจะให้ผลที่ดีที่สุดกว่าการที่จะเลือกใส่อย่างใดอย่างหนึ่ง ปุ๋ยเคมีไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายแต่เป็นประโยชน์มาก สารเคมียาฆ่าแมลงต่างหากที่อันตรายแต่ยังมีหลายท่านเข้าใจผิดว่าปุ๋ยเคมีไม่ดี ดังนั้นทุกบทความผมจะใช้ปุ๋ยเคมีเสมอ เพราะทุกบทความผมทดลองปลูกแล้วว่าได้ผลเลยอยากให้ทุกท่านใช้เป็นแนวทางในการปลูกผักไว้กินกันนะครับ
1. ปุ๋ยรองพื้น ใช้ปุ๋ย 15 - 15 - 15 อัตรา  1  ช้อนชา รองก้นหลุมพร้อมกับปุ๋ยคอกกับปุ๋ยหมักอย่างละ1แก้ว
และมูลไส้เดือน   2 ข้อนโต๊ะ
2. ปุ๋ยแต่งหน้าที่อายุ  10 วัน หลังจากย้ายปลูก ใช้ปุ๋ย 46 - 0 - 0 อัตรา 1 ช้อนชาต่อต้น+มูลไส้เดือน 1 ช้อนโต๊ะ
3. ปุ๋ยแต่งหน้าที่อายุ 20  วัน หลังจากย้ายปลูก ใช้ปุ๋ย 15 - 15 - 15 อัตรา 1 ช้อนชาต่อต้นพร้อมปุ๋ยหมัก1แก้ว+มูลไส้เดือน 1 ช้อนโต๊ะ
4. ปุ๋ยแต่งหน้าที่อายุ 40 วัน หลังจากย้ายปลูก ใช้ปุ๋ย 13 - 13 - 21 อัตรา 1 ช้อนโต๊ะต่อต้นพร้อมปุ๋ยหมัก1แก้ว+มูลไส้เดือน 1 ช้อนโต๊ะ

      เมื่อมะเขือเทศอายุ 70-90วันก็จะเริ่มเก็บกินได้แล้วครับและสามารถเก็บได้นาน 1-2 เดือนแล้วแต่การบำรุง
     

 แถมเทคนิคการปลูกเล็กๆน้อยนะครับ
  •  หากปลูกในกระถางต้องมีขนาดความสูงไม่ต่ำกว่า18 นิ้ว
  •  ใช้ดินปลูกที่มีความโปร่งรวนซุย
  •  ควรใช้ปุ๋ยหมัก
  • ใช้ปุ๋ยเคมีเล็กน้อยช่วยในการเจริญเติบโตในช่วงแรก
  • ควรให้มีการโดนแสงมากกว่า8ช.มขึ้นไปหากแสงน้อยผลจะไม่ดก 
  • ชอบน้ำมากแต่ไม่ชอบน้ำขัง ระบบน้ำหยดจึงเหมาะมาก หรือเป็นถังปลูกผักรดน้ำอัตโนมัติ
  • หากเพาะกล้าควรจะย้ายลงดินเมื่อต้นสูง7-8นิ้ว  
  • กลบต้นกล้าให้ลึก50-70% แบบนอนหรือแบบลึกก็ได้ช่วยให้ต้นมะเขือเทศแข็งแรงโตไวผลดก 
          โรคที่สำคัญ ได้แก่
1. โรคใบไหม้ เนื่องจากเชื้อ Alternaria และ Cercospora ระบาดเร็วมากเมื่ออุณหภูมิและความชื้นสูงเป็นมากในฤดูฝน
2. โรคใบหงิกจากเชื้อไวรัส มีแมลงหวี่ขาว และ เพลี้ยอ่อนเป็นพาหนะนำเชื้อ
3. โรคเหี่ยวเนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย มะเขือเทศเหี่ยวตายอย่างรวดเร็วขณะที่ลำต้นใบ ยังเขียวอยู่ไม่มียาป้องกันต้องใช้พันธุ์ต้านทานเท่านั้น ถ้าพบต้นเป็นโรคควรถอนทิ้งเผาไฟทันที
4. โรคเหี่ยวจากเชื้อสเคอโรเตี่ยม เกิดมากเมื่อดินมีความชื้นสูง จะพบราสีขาวทำลายผิวส่วนโคนต้นที่ติดกับดิน    

          
         หวังว่าคงเป็นแนวทางการปลูกสำหรับท่านที่อยากทดลองปลูกมะเขือเทศกันนะครับ อยากให้ทดลองปลูกกันดูครับหากติดปัญหาอะไรสอบถามมาทางเฟสได้ครับ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น