การปลูกผักกาดหอม

การปลูกผักกาดหอม

ลักษณะทั่วไป

• ชอบอากาศเย็น16-25 C
• ปลูกได้ตลอดทั้งปี(ชนิดใบไม่ห่อ)
• ต้องการแสงแดดตลอดวัน
• ระดับpHที่เหมาะสมคือ 6.5-7.0
• รดน้ำปานกลาง,ให้รดน้ำเช้าเย็นน้ำไม่ขังเพราะจะทำให้รากและใบเน่าง่าย
• อายุการเก็บเกี่ยว 40-45 วัน 
• ระยะปลูก 30×30 ซ.ม. 

การปลูกถั่วฝักยาว

การปลูกถั่วฝักยาว

ลักษณะทั่วไป

• ชอบอากาศค่อนข้างร้อน
• ปลูกได้ตลอดทั้งปี
• ชอบแดดตลอดวัน
• ชอบ pH 5.5-6.0
• ชอบน้ำน้อย,รดน้ำให้หน้าดินชุ่มและให้รดในตอนเช้าครั้งเดียว
• อายุการเก็บเกี่ยว 50-60วัน,สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 30-40 วัน
• ปลูกแบบหยอดหลุม
• มีลำต้นเลื้อย,พุ่ม
• ระยะห่างระหว่างต้น 80x50 ซ.ม.
• ดอกสมบูรณ์เพศ

ปลูกบวบไว้กิน

ปลูกบวบไว้กิน

     บทความนี้จะเป็นการเล่าพร้อมสอนการปลูกบวบไว้ทาน เพื่อให้ท่านที่ไม่เคยปลูกพอจะเข้าใจนิสัยของพืชชนิดนี้ไม่เน้นผลผลิตแค่พอมีไว้ทานและที่สำคัญปลอดสารพิษ

     เชื่อกันว่าบวบมีถิ่นกำเนิดมาจากทางประเทศอินเดียเพราะเนื่องจากพบต้นที่มีลักษณ์ที่เป็นพืชป่าในประเทศอินเดีย บวบจัดเป็นไม้ล้มลุกมีอายุปีเดียว ทนแล้ง ทนฝน โรคและแมลงไม่ค่อยมารบกวนเพียงแต่ว่าในช่วงระยะแรกที่ใบยังน้อยต้นยังเล็กต้องคอยดูแลใกล้ชิดหน่อย หากบวบสามารถตั้งต้นเลื้อยขึ้นค้างแตกยอด และมีใบจำนวนมากแล้วจะแข็งแรงได้เก็บผลทานกันแน่นอนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่ดูแล เรามาดูประโยชน์ของบวบกันว่านอกจากอร่อยแล้วยังมีดีอะไรอีก
     ประโยชน์ของผลบวบนั้นมีดังนี้(จากหนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทยของ ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม)
         1.เป็นยาเย็น มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย
         2.หากเป็นคางทูม ให้ใช้ใยผล ที่เผาเป็นถ่านแล้ว ผสมกับน้ำใช้ทาบริเวณที่ปวดได้
         3.ช่วยลดไข้ แก้ร้อนใน
         4.ผลอ่อนมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ ผลอ่อนนำไปต้มกับน้ำจนเดือด ใช้น้ำที่ได้นำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
         5.ช่วยขับน้ำนมของสตรีที่มีน้ำนมน้อยหลังการคลอดบุตร
   

การปลูกบวบ

การปลูกบวบเหลี่ยม

ลักษณะทั่วไป

• ชอบแดดมาก
• ให้รดน้ำในตอนเช้าครั้งเดียวทุกวัน
• สามารถเจริญเติบโตได้ผลดีระหว่างอุณหภูมิ 20-30 องศาเซลเซียส
• เหมาะที่จะปลูกในหน้าฝน
• อายุการเก็บเกี่ยว 40-60 วัน
• เหมาะกับการปลูกแบบหยอดหลุม
• มีลำต้นเลื้อย
• ระยะห่างระหว่างต้น 1.5x1.5 เมตร
• ใน1ต้นจะมีดอกเพศผู้และเพศเมียแยกกัน
• ดอกจะบานในตอนเย็น 
• ชอบ pH 6.5-7.5  

ระบบการรดน้ำ"แบบน้ำหยดจากแสงอาทิตย์"

น้ำหยดจากแสงอาทิตย์

      ช่วงนี้ร้อนมากๆเลยในตอนกลางวัน มะเขื่อเทศราชินีที่ปลูกไว้เลยต้องพลางแสงให้สักหน่อยในตอนกลางวันเดียวร้อนมากๆจะไม่ค่อยดี  วันนี้ผมจะมานำเสนอบทความเกี่ยวกับการปลูกพืชหน้าแล้งอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งนอกจาก"ถังรดน้ำอัตโนมัติ"แล้ว ยังมีอีกระบบที่หน้าสนใจอาจจะไม่ดีเท่าแต่ว่าก็ประหยัดน้ำได้ถึง 10-15 เท่า เลยที่เดียว งั้นเรามาดูหลักการก่อนจะได้นำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง

การทดสอบpH

การทดสอบpH

         เคยเจอปัญหาไหมครับ ว่าใส่ปุ๋ยก็เยอะทั้งเคมีทั้งชีวภาพสารพัดปุ๋ยแต่พืชผักที่ปลูกกลับ

แคระแกรนไม่โต ใบเหลืองใบซีด ปลูกทีไรไม่ได้เรื่องสักที บางทีเราอาจจะพลาดแค่เรื่องเล็กๆแต่ไม่เล็กของคำว่า pH ในดิน โดยส่วนใหญ่แล้วพืชชอบ pH อยู่ที่ระหว่าง 5.5-7.5 หากว่า pH ไม่เหมาะสมกับพืชนั้นๆก็จะทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากพืชไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ต่อให้ดินมีธาตุอาหารชั้นเลิศแต่ pH ไม่เหมาะสมพืชก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้จึงแสดงอาการขาดธาตุอาหารออกมา

      ในการวัดความเป็น กรด – เบส ในสารละลายนั้น เราใช้คำว่า “pH” เป็นตัวบ่งชี้ ตัว pH ย่อมาจาคำว่า  positive potential of the hydrogen ions คือ ค่าที่แสดงถึงความเข้มข้นของไฮโดรเจนไอออน (H⁺) 

ความเป็นกรด-ด่างของวัดกันด้วยหน่วย pH ซึ่งจะมีค่าที่ 0-14 ดังนั้นหากในดินมีค่า pH เท่ากับ 7 ก็แสดงว่ามีค่าเป็นกลาง แต่ถ้ามีค่า pH ต่ำกว่า 7 ก็แสดงว่าดินมีความเป็นกรด แต่หากดินมีค่า pH สูงกว่า 7 ก็แสดงว่ามีความเป็นด่าง